กับดักยุง
เข้าหน้าฝนแล้ว...ใครที่มีบ้านอยู่ต่างจังหวัด จะรู้จัก อสม.(อาสาสาธารณะสุข ประจำหมู่บ้าน ) พวกเขาเหล่านี้ก็จะเริ่มประชาสัมพันธ์เรื่องให้ป้องกันยุงลาย เพราะปีๆหนึ่งมีคนป่วยตายไม่ใช่น้อย และรัฐก็ต้องเสียเงินเรื่องนี้ทุกปี งานนี้ขออาสาช่วย อสม. อีกทางละกัน
มาทำกับดักยุงกันดีมั๊ย.....ไม่ใช่หน้าฝนก็ใช้ได้ดี (ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อที่ดักยุงตามห้างให้ยุ่งยากเปลืองตังค์...ยิ่งมีน้อยอยู่ด้วย )
หลักการสำคัญ ...คือ
ยุงมันจมูกไว มันจะบินไปหาแหล่งกำเนิด คาร์บอนไดออกไซด์ เวลาคนหรือสัตว์หายใจ ก็จะคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ( ดังนั้นถ้ากลัวยุงกัดก็กั้นหายใจไว้...555 ) เทคนิคนี้เครื่องดักยุงที่เป็นระบบไฟฟ้าเขาก็สร้างเครื่องกำเนิดคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา แล้วเมื่อยุงบินมาเครื่องก็มีพัดลมมาดูดใหยุงตกไปกับดัก (แต่ต้องเสียบไฟฟ้านะ)
คราวนี้ของเราเท่ห์กว่าไม่เสียค่าไฟ ไม่ต้องเปลืองไปซื้อเครื่องดักจับยุง ได้ผลดีเชียวแหละ ลองไปทำดูกันนะ
กล่องเลี้ยงจิ้งหรีด
มีคนอยากเลี้ยงจิ้งหรีดเยอะ แต่ติดตรงที่มันเป็นเรื่องใหญ่โตยุ่งยาก เพราะศึกษาดูตามเน็ต แล้วด้องทำโรงเรือน ต้องซื้อวงปูนมาทำบ่อ หล่อปูนเทพื้น...โอ้ย ยุ่งไปหมดเรื่องใหญ่เรื่องโต ก็แค่อยากเลี้ยงไว้กินเอง เหลือก็ขาย ลงทุนขนาดนั้นไม่คุ้ม... สุดท้ายพับแผนซื้อเขากินดีกว่า
นี่มาดูโครงการเด็ดๆของเรา แค่ท่านทำกล่องแบบนี้ ( กล่องอะำรก็ได้ กล่องกระดาษหรือพลาสติก)
เพียงแค่ทำตามรูปแบบนี้หรือใกล้เคียง ชุดหนึ่งเอาไว้เลี้ยงตัวอ่อน อีกชุดเอาไว้สำหรับให้แม่จิ้งหรีดวางไข่ พอแม่วางไข่แล้วก็วนมาใส่ที่เลี้ยงตัวอ่อน ถ้ามันมีจิ้งหรีดเพิ่มมากก็ทำชุดเลี้ยงเพิ่ม...แล้ววางไว้ที่ชั้นวางของตรงมุมบ้านตรงไหนก็ได้ เห็นไหมประหยัดพื่นที่ประหยัดตังค์
ถ้าเห็นด้วย และอยากเลี้ยงจิ้งหรีดแล้วก็เริ่มได้เลย
กับดักแมลง
เย๋นมา...ค่ำมา แมลงบินเล่นไฟกันให้ว่อน บางทีก็เยอะเกินจนน่าลำคาญ ไหนไก็ต้องเปิดไฟลานจอดรถ หน้าบ้านหรือรอบบ้านแล้ว ยอมเสียสละไฟสักดวงมาทำกับดักแมลงกันดีกว่า ทำง่ายแสงสว่างลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ได้ประโยชน์ตอบกลับเยอะเชียว และนี่คือผลลัพท์ที่เราได้กลับมา1.ทำให้แมลงลดลงมาก
2.แมลงที่ดักได้ประเภทไกนทานได้ก็เอามาทอดกิน เช่น จิ้งหรีด แมงเม่า แมงดา ....อร่อย...ได้โปรตีนดี
3.ไม่ทานก็เอาไปตากแห้งแล้วบดผสมอาหารเลี้ยงสัตว์ ( ที่สวนเกษตรเรา ลดค่าอาหาร เยอะนะ ) เพราะ
แมลงอุดมด้วยโปรตีน ไม่ต้องไปหาปลาป่นอะไรให้ยุ่งยาก
ระบบน้ำหยดอย่างง่าย
ระบบน้ำหยดนีัช่วยให้เราประหยัดเงินและมั่นใจว่าไม่เสียค่าน้ำมากเกิน ( ดพราะถ้ามันหมดเราต้องคอยเติม กรณีถ้าเราทำแบบต่อท่อกับระบบประปามันก็จะหยดตลอด จนกว่าเราจะปิดวาล์ว และที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินไปซื้ออุปกรณ์ให้ยุ่งยาก
ที่เลี้ยงผึ้งโพรง
เราเขียนบทความและเสนอข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับผึ้งมาหลายตอนแล้ว คราวนี้เราจะขอแนะนำ สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องผึ้ง หรือไม่ได้สนใจ (แต่พอรู้ว่ามันง่าย อาจสนใจก็ได้ )
1.ทำกล่องจากไม้ หรืออะไรก็ได้ อาจเป็นท่อซีเมนต์ ตอไม้ กล่องพลาสติค แล้วแต่ท่านจะหาได้.....ที่สำคัญให้มีรูเข้าของผึ้ง และมีฝาปิด (ดังรูป)
2.ทาขี้ผึ้งแท้ อุดรอยรั่งภายในและรอบรู เพื่อล่อให้ผึ้งมา
3. เอารังผึ้งที่เราทำไปไว้ใต้ร่มไม้หรือที่ มุมใดมุมหนึ่ง ที่สงบๆ ไม่มีอะไรรบกวน
4.เอาจานน้ำเชื่อมมาล่อผึ้งใกล้ๆรังของเรา
5.ทำแปลงดอกไม้ไว้ใก้ลๆ สักแปลงสักพักจะเริ่มมีผึ้งมาสำรวจแล้วถ้าท่านวางในที่เหมาะสม ลมไม่แรง ไม่มีสิ่งรบกวน ผึ้งมันจะพากันมาแอบอยู่ในรังที่ท่านทำขึ้น
คราวนี้ก็ทำเพิ่มหลายรัง ขยายให้เป็นฟาร์มเลยนะ
ตัวป่วนอีกอย่างหนึ่งที่ ท่านที่ปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะไม้ดอกไม้ประดับปวดหัวคือ หอยทาก เราอุตสาห์ถนุถนอมดอกไม้ที่ปลูกเช้ารุ่งขึ้นโดนหอยทากแอบขโมยกัดกินเกลี้ยง ( หอยทากจะออกกลางคืน มากันเป็นฝูง แล้วกลางวันก็แอบไปหลบตามซอกหลืบมืดๆ) งานนี้ต้องกำจัดแถมได้สองเด้งคือ เมื่อเราดักหอยทากแล้วเราก็เอามันไปเข้าถังหมักเป้นฮอร์โมนเร่งการเติบโตของพืชได้อีก สบายเรา ...
( จะเขียนบทความเรื่องฮอร์โมนอีกชอตนึงนะ)
ทำแบบนี้ติดต่อกันหลายคืนเดี๋ยวก็ตายหมด ( พยายามย้ายที่ดักไปหลายมุมของสวนหน่อยนะ เพราะหอยทากมันหลบอยู่เป็นกลุ่มรวมกันเป็นครอบครัวเลย )
กับดักแมลงวัน
บ้านใครอยู่ใกล้ฟาร์มหรือ ใกล้ตลาดสด มักเจอสิ่งที่ทุกคนรังเกลียดนั่นคือ แมลงวัน แม่ค้ามักจะทำที่ปัดไล่ ( ก็ได้แค่ไล่...จำนวนไม่ได้ลดลง ) บางคนก็ทำกับดักแบบง่ายๆ ทำเป็นกับดักชั้นเดียว ....ได้ผลดีแต่มันยังบินอยู่ในขวด...ไม่ตาย
ลองเอาแบบนี้ไปใช้นะ มันดักสามชั้นรับรองอยู่หมัด
กับดักชั้นที่ 1 ใส่เหยื่อล่อไว้ที่ ก้นขวด A1 เช่นเศษผลไม้
กับดักชั้นที่ 2 เมื่อแมลงวันเข้ามาที่A1แล้ว แทนที่มันจะบินออก
ด้านข้าง (ออกตรงทางเข้านั่นแหละ) แต่มันไม่เป็น
เช่นนั้น มันกลับบินขึ้นแนวดิ่งเสมอ มันจึงตรงขึ้น
ไปหา A2
กับดักชั้นที่ 3 พอไปหาA2 มันยิ่งหาทางออกไม่เจอใหญ่ บินไปคลานไป สุดท้ายก็ไปตกน้ำตายใน ขวด A3
เป็นไง...น่าสนมั๊ย..... มีเท่าไรก็ตาย
